ข่าวสารอัพเดท

4 เหตุผล ที่ควรเขียนแผนธุรกิจ

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ การเขียนแผนธุรกิจ หรือ Business Plan เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และเป็นมาตรฐานการทำธุรกิจสมัยใหม่ที่ควรทำ เพราะไม่ว่าจะเป็นการขอกู้เงิน ขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อนำเงินมาลงทุนก็ต้องเขียนแผนธุรกิจทั้งนั้น โดยแผนธุรกิจนอกจากจะเป็นการประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจแล้ว ยังเป็นแผนงานและแผนควบคุมการดำเนินงานของบริษัทอีกทางหนึ่งด้วย

จากหนังสือ Write Your Business Plan ที่เขียนโดยทีมงานของ Entrepreneur ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ควรเขียน Business Plan ว่ามีความจำเป็นมากเพียงใด โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และ Startup การจัดทำแผนธุรกิจนั้นในช่วงแรกอาจจะรู้สึกยาก จับต้นชนปลายไม่ถูก ซึ่งทางคณะผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงการเขียนแผนธุรกิจ โดยนำเสนอเหตุผลมา 4 ข้อ ดังนี้

1. เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ

ถ้าคุณต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างจริงจัง การเขียนแผนธุรกิจจะช่วยให้คุณเข้าใกล้แหล่งเงินทุนมากขึ้น เพราะมีเม็ดเงินเป็นเดิมพันที่สำคัญ คุณจึงต้องตั้งใจ และหาข้อมูลเป็นอย่างดี ถ้ามีแผนธุรกิจที่ดีก็จะช่วยดึงดูดนักลงทุนได้ อย่าลืมว่าคุณยังต้องแข่งขันกับ Startup อีกมากมายที่ต้องการเงินก้อนนี้เหมือนกัน

2. เพื่อการต่อยอดธุรกิจ

การเขียนแผนธุรกิจไม่ได้มีความจำเป็นเฉพาะ Startup เท่านั้น แต่ยังมีความจำเป็นต่อผู้ที่ทำธุรกิจมานานแล้วเช่นกัน ถ้าคุณเป็นบริษัทขนาดกลาง – ใหญ่ การเขียนแผนธุรกิจจะช่วยระดมเงินทุนได้ง่ายขึ้น ต่อยอดการทำธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และสื่อสารเป้าหมายขององค์กรไปสู่ลูกค้า ซัพพลายเออร์ หรือบุคคลอื่นๆ ที่สนใจทำธุรกิจร่วมกับคุณได้ หากจะบอกว่าการเขียนแผนธุรกิจเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตองค์กรก็คงไม่ผิด

3. ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน

ปัจจุบันมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่น้อยที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป เช่น เพื่อความสุข เพื่อผลกำไร หรือเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คุณต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางในการเขียนแผนธุรกิจ และเป็นการตรวจสอบการทำงานทั้งหมดที่ผ่านมา แผนธุรกิจนี้ยังนำมาใช้ได้ในอนาคต แผนธุรกิจจะช่วยเตือนความจำของคุณเองว่า ขณะนี้คุณดำเนินธุรกิจไปอย่างไร หรือหลงลืมอะไรไปบ้าง

4. ต้องการรู้อนาคตของธุรกิจ

อาจฟังดูเป็นเรื่องยาก ที่คาดเดาว่าในอนาคตธุรกิจของคุณจะเป็นอย่างไร จะไปได้สวย หรือไปไม่รอด การเขียนแผนธุรกิจจะเป็นแนวทางในการทำธุรกิจ ทั้งเรื่องการวิจัยตลาด แนวโน้มตลาดและการวิเคราะห์การแข่งขัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นทิศทางของธุรกิจในอนาคตได้ และเป็นตัวช่วยสำคัญในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ


ลักษณะของแผนธุรกิจที่ดีต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
 
  1. บทสรุปผู้บริหาร (Executive Summary) เพื่อให้ผู้บริหารหรือผู้พิจารณาแผน ได้ทราบภาพรวมทั้งหมดของโครงการ และผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน
  2. โครงสร้างอุตสาหกรรมของบริษัท (Industry Analysis) บอกถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมของโครงการ วิสัยทัศน์ ภารกิจ และวัตถุประสงค์ของโครงการ
  3. การวิเคราะห์ตลาด (Marketing Analysis) เป็นการวิเคราะห์ถึงปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน สภาพการแข่งขันในตลาด การกำหนดตลาดเป้าหมาย การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ พฤติกรรมผู้บริโภค และการประมาณการยอดขายสินค้าและบริการ
  4. แผนการตลาด (Marketing Plan) การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งทางด้านสินค้าและบริการ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย การสื่อสารทางการตลาด การบริหารการขาย และการรับประกันสินค้าและบริการ
  5. แผนการพัฒนาในอนาคต (Improvement Plan) แผนงานการพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัทในอนาคต
  6. แผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan) กลยุทธ์การดำเนินงาน สถานที่ตั้ง แผนการดำเนินงาน
  7. โครงสร้างองค์กร (Organization Plan) แผนผังองค์กร ทีมงานหลักในการบริหาร และหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ
  8. ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ (Business Profit) นโยบายทางการเงิน สมมติฐานการเงิน งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด เงินลงทุนและผลตอบแทน อัตราส่วนทางการเงิน การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของผลการดำเนินงาน การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน
  9. แผนการดำเนินงาน แผนภาพระยะเวลาของการดำเนินงานในช่วงเวลาต่างๆ (Time Frame)
  10. แผนการควบคุม (Controlling Plan) แผนควบคุมการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
  11. แผนฉุกเฉิน (Emergency Plan) แผนสำรองหากการดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ หรือแผนการแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ที่มา : www.smesmart.in.th
2015-01-16