ข่าวสารอัพเดท

23 ข้อคิด ชีวิตพุ่งกูรูการตลาดระดับประเทศ อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย

กูรูการตลาดชื่อดังของเมืองไทย ชั่วโมงนี้ต้องเป็นชายคนนี้เท่านั้นครับ อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ด้วยคาแรกเตอร์ ถามแรง พูดตรง สับจนเจ้าของธุรกิจเงิบ ตัวอย่างเช่น คุณคิดว่าสินค้าคุณใครควรซื้อ คุณคิดว่าจุดเด่นในสินค้าคุณคืออะไร อีก 5 ปีข้างหน้า

ธุรกิจคุณอยู่ตรงจุดไหน อะไรที่คุณคิดว่าคุณทำได้ดีกว่าคู่แข่ง ฯลฯ แต่ละคำถาม ดุเด็ดเผ็ดมันส์ทั้งนั้น ถ้าเตรียมตัวมาไม่ดี กลายเป็นหมูขึ้นเขียงเล๊ะเป็นโจ๊กกองปราบได้ง่ายๆ วันนี้ Leader Wings จะพาคุณไปรู้จักชายคนนี้กันครับ กับเจ้าของวลียอดฮิต แตกครับ !!

23 ข้อคิด ชีวิตพุ่งกูรูการตลาดระดับประเทศ อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย 

1.ความเป็นมา : อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ชื่อเดิม สุจิต ปัจจุบันอายุ 52 ปี จบการศึกษา ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , ปริญญาโทบริหารธุรกิจ (การตลาด) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

2.จุดเริ่มต้น : ในอดีตมีโอกาสเข้ามาอยู่ในสายงานสื่อสารมวลชน นักข่าว นักจัดรายการวิทยุ แปลหนังสือ เขียนข่าวคอลัมน์การตลาด สัมภาษณ์นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ จากจุดนั้นทำให้ดูดซับความรู้จากนักธุรกิจ แล้วนำมาวิเคราะห์ หาข้อมูล นำเสนอสู่สาธารณชน หล่อหลอมให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และก้าวเข้ามาเป็นกรรมการรายการทีวี พิธีกรรายการทีวี  วิทยากร  อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัย จนถึงปัจจุบัน

3.อาชีพ : ถ้าถามว่าผมทำอาชีพอะไร ตัวผม คือ บริษัท (Company)  สินค้าผม คือ ความรู้ (Knowledge)  ความรู้ผมไปอยู่บนวิทยุ ทีวี หนังสือเล่ม จัดสัมมนา สอนหนังสือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมเป็นเขาเรียก นักบริหารจัดการความรู้ (Knowledge Management) หรือคำที่ฮิตกันสมัยนี้เรียกว่า  Infopreneur

4.การตลาดในสายเลือด : อย่าบอกว่าคุณไม่ได้เรียนการตลาด ไม่รู้เรื่องการตลาด เพราะการตลาด มันคือ สามัญสำนึก (Common sense) มันอยู่ในตัวคุณอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าคุณเห็นหรือไม่

5.หาจุดแข็ง : คนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนมาจากการสร้างจุดแข็งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก หาใช่มาจากการสร้างจุดอ่อนให้แข็งแกร่งไม่

6.ฝึกฝนการพูด : สิ่งที่ทำให้เป็นคนฝีปากกล้า พูดเก่ง สไตล์ขวานผ่าซาก สมัยเรียนมัธยมชอบพรีเซ็นต์หน้าห้อง ตอนมหาวิทยาลัยเข้าชมรม ส่งเสริมศิลปะการพูด ทำให้มีโอกาสได้ฝึกฝนด้านการพูดจนเชี่ยวชาญ เพราะผมเชื่อว่า ต่อให้เก่งมากแค่ไหน แต่ถ้าสื่อสารให้คนฟังไม่เข้าใจ ก็ไร้ประโยชน์

7.สูตรสำเร็จ : คนทำธุรกิจในอนาคต คือ (สูตร  ½ x 2 x 3)

½ คือ ในอนาคตจำนวนแรงงาน จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งในปัจจุบัน
2 คือ แรงงานที่ทำงานอยู่เดิม ต้องทำงานมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
3 คือ ประสิทธิผล หรือ ผลลัพธ์ ของการทำงานต้องได้เป็นสามเท่า
สิ่งสำคัญ คือ ผลตอบแทนที่จูงใจพนักงานมากพอหรือไม่
เพราะในอนาคตเด็กรุ่นใหม่ จะทำงานประจำน้อยลง หันไปทำงานไม่ประจำกันมากขึ้น
8.กลุ่มลูกค้า : พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ดูทีวีน้อยลง อยู่ในโลก Social เพิ่มมากขึ้น รายการทีวี ละคร ซีรีย์ เรื่องดราม่า คลิป ดูย้อนหลังเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคุณจะทำธุรกิจ จะลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ควรเลือกสื่อที่อยู่ในชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมาย เช่น  Facebook Instagram , Twitter , Google Adword , LINE ฯลฯ

9.Key : หัวใจของธุรกิจ คือ ‘การตลาด’ หัวใจของการตลาด คือ ‘แบรนด์ดิ่ง’ ผู้บริโภคในปัจจุบันจะเลือกซื้อที่ความ ‘คุ้มค่า’ มากยิ่งขึ้น ไม่ได้ซื้อที่ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียวเหมือนอดีต ตัวอย่างเช่น  ชาเขียวแจกรถยนต์ แจกเงินล้าน ลุ้นตั๋วชมฟุตบอลโลก

10.การตลาด 360 องศา : เสน่ห์ของการตลาด คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา ทุกอย่างมันคือการตลาด ทำให้ผมไม่มีวันเบื่อ อยู่กับศาสตร์ด้านการตลาดไปได้ชั่วชีวิต

11.รู้ว่าเราเก่งด้านไหน : บางคนเกิดมาเพื่อเป็นผู้เล่น บางคนเกิดมาเพื่อเป็นกุนซือ บางคนเกิดมาเพื่อเป็นโค้ช บางคนเกิดมาเพื่อเป็นที่ปรึกษา นี่แหละคือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด เพราะมันคือจุดแข็งของผม

12.ปิดทองหลังพระ : หลายคนถามผมว่า เก่งการตลาดขนาดนี้ ทำไมไม่ทำธุรกิจเองเลย ผมตอบเขาว่า ผมเปรียบเสมือนออกซิเจน คือ ผมช่วยจุดติดไฟให้คนอื่นได้ แต่ลำพังตัวเอง ไม่ติดไฟ ความภาคภูมิใจของผมคือ การที่ผมได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสมการความสำเร็จในธุรกิจคุณ

13.ดาราหน้ากล้อง : ฉากหน้ารายการทีวี มันคือการแสดง ผมมีหน้าที่ทำให้รายการดูมีสีสัน สนุกสนาน น่าติดตาม คุณคงไม่ชอบ ถ้าผมจะพูดเบาๆ ช้าๆ เออ… ขออนุญาตนะครับ ไม่ทราบว่า ทำมากี่ปีแล้วครับ ขออภัยนะครับ ธุรกิจคุณขายอะไรครับ ขายให้ใครดีครับ แบบนั้นน่าเบื่อแย่

14.Passion : สโลแกนผม คือ ทำในสิ่งที่ชอบ เลือกในสิ่งที่ใช่ หมายความว่า คนเราถ้าทำในสิ่งที่ชอบ มีแรงปรารถนา อันแรงกล้า เวลาทำงานอะไรก็ตามจะเหมือนไม่ได้ทำงาน

15.Style ขาโหด : เอกลักษณ์ผม คือ เสียงดังฟังชัด เน้นเสียง เน้นคำพูด เน้นหน้าตาดุดัน แต่ผมไม่ได้โหดตลอดเวลา โหดเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น

16.ว่ากันด้วยเรื่องค่าตัว : เรทปัจจุบันผมอยู่ที่ ชั่วโมงละ 30,000 บาท กลยุทธ์การตั้งราคาของผมคือ ตั้งราคาให้สูงกว่าคนทั่วไปที่ลูกค้าไม่รู้จัก หรือ ไม่ดังเท่าเรานิดนึง  ถ้าลูกค้าซื้อมากกว่าหนึ่งชั่วโมงมีส่วนลดให้ เช่น สองชั่วโมง 45,000 ไม่ใช่ 60,000 ผมชอบใช้กลยุทธ์ทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำ

17.สัมภาษณ์งานครั้งแรก : ผมเรียนมาทางด้านรัฐศาสตร์ แต่คุณสมบัติที่เขารับสมัครคือ ต้องการคนมีประสบการณ์ในสายงานทำข่าว ผมแก้ปัญหาด้วยการ จัดโปรโมชั่นขอทำงานฟรี 3 เดือน (คิดในใจถ้าทำงาน 3 เดือนแล้ว ยังไม่ยอมให้เงินเดือน เราก็สามารถเอาประสบการณ์ไปหางานที่ใหม่ได้) ผลสุดท้ายปรากฏว่า เขายอมรับผมเข้าทำงาน และให้เงินเดือนด้วย

18.ความหวังดี : ผมทำหน้าที่กรรมการในรายการ SME ตีแตก ผมไม่ต้องการให้คุณมาชอบผม แต่ผมต้องการให้ธุรกิจคุณดีขึ้น สิ่งที่ผมพูด ผมแนะนำ ผมจี้ เพื่อชี้ไปที่จุดอ่อนธุรกิจคุณ ซึ่งคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ปรับปรุงหรือไม่ปรับเปลี่ยนก็ได้

19.จุดอ่อน : ถ้าจับผมมัดมือ มัดเท้า แล้วสัมภาษณ์เรื่องการตลาด ผมจะพูดไม่ถนัด เพราะผมชอบออกท่าทางในการพูด  จุดอ่อนของผม คือ พูดเก่ง ทำไม่เก่ง (สารภาพตรงๆ)

20.ใครก็ดังได้ : คุณสามารถปั้นตัวเองให้ดังได้ด้วยการตลาด เพราะการตลาด คือ การหาความต้องการลูกค้าให้เจอ แล้วสนองตอบความต้องการนั้น ยึดหลักแตกต่าง มีคุณค่า ได้ประโยชน์ สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง คุณจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ

21.ธุรกิจแนะนำ : ถ้าคุณต้องการทำธุรกิจ สร้างธุรกิจรับ AEC ผมแนะนำ ธุรกิจความงาม ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจเกี่ยวกับเด็ก ธุรกิจดูแลผู้สูงวัยและคนวัยทำงานให้มีความสุข

22.ปณิธาน : จุดมุ่งหมายในชีวิตผม คือ ถ่ายทอดความรู้ให้นักธุรกิจ SME ประสบความสำเร็จมากที่สุด และสามารถสู้กับนักธุรกิจ SME ในต่างประเทศได้

23.ฝากข้อคิด : การตลาดยุคปัจจุบันมีทั้งสายขาว สายเทา สายดำ ผู้บริโภคยุคใหม่ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ควรฉุกคิดสักนิด สำรวจข้อมูล ดูรีวิวแท้ ไม่ใช่รีวิวเทียม อย่าเชื่อโฆษณาที่บอกว่าดี อย่าเชื่อการตลาดที่ล่อให้คุณ ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ หาข้อมูลให้รอบด้าน และตัดสินใจด้วยตัวคุณเองดีที่สุด


ขอบคุณที่มา : http://www.leaderwings.co
 
2016-02-09